11 มี.ค. 2554

ตั้งมั่นคงอยู่กับพระองค์

และฝ่ายท่านทั้งหลาย การเจิมซึ่งท่านทั้งหลายได้รับจากพระองค์นั้นดำรงอยู่กับท่าน และไม่จำเป็นต้องมีใครสอนท่านทั้งหลาย เพราะว่าการเจิมนั้นได้สอนท่านให้รู้ทุกสิ่ง และเป็นความจริง และไม่ใช่ความเท็จ การเจิมนั้นสอนท่านทั้งหลายแล้วอย่างใด ท่านจงตั้งมั่นคงอยู่กับพระองค์อย่างนั้น ๑ ยน. ๒:๒๗
คุณเคยเห็นคนที่ไม่มั่นคงหรือไม่ เมื่อวานเชื่ออย่าง วันนี้เชื่ออีกอย่าง เราเดาได้ว่าวันพรุ่งนี้เขาก็จะเปลี่ยนความเชื่ออีก ทุกครั้งที่คลื่นคำสอนระลอกใหม่ซัดเข้ามา เขาก็พร้อมจะถูกซัดไปกับคลื่นนั้น
อัครทูตเปาโลกำชับให้ผู้เชื่อระวังลมแห่งคำสอนล่อลวงที่คอยซัดไปซัดมา (อฟ. ๔:๑๔)
จากพระธรรมข้อหลัก ยอห์นเตือนผู้เชื่อเรื่องครูสอนเทียมเท็จ คนเหล่านี้สอนว่า พระเยซูไม่ใช่พระคริสต์ พวกเขาปฏิเสธพระบิดาและพระบุตร (ข้อ ๒๒-๒๓)
ยอห์นกล่าวว่า การที่ผู้เชื่อจะตั้งมั่นคงอยู่กับพระองค์ได้นั้นจะต้องรับการสอนอยู่เสมอ เป็นการสอนโดยการเจิมซึ่งผู้เชื่อทุกคนได้รับจากพระเจ้า ปัญหาคือผู้เชื่อมากมายไม่รู้จักการเจิม ไม่รู้ว่าตนได้รับการเจิมหรือไม่ และไม่รู้ว่าการเจิมทำสิ่งใดในชีวิต พวกเขาพึ่งเพียงคำสอนจากมนุษย์ จึงพลาด และถูกคำสอนเทียมเท็จล่อลวงพวกเขาออกจากทางแห่งความจริง
ยอห์นกล่าวว่าและฝ่ายท่านทั้งหลาย การเจิมซึ่งท่านทั้งหลายได้รับจากพระองค์นั้นดำรงอยู่กับท่าน
หลายคนเข้าใจว่าการเจิมคืออิทธิพล พลัง ขนลุก การกระทำแปลกๆ เพราะเหตุนี้คนเหล่านั้นจึงพิพากษาคนที่ปราศจากอาการดังกล่าวว่า พวกไม่มีการเจิม
การเจิมคืออะไร เราจะเห็นความเกี่ยวพันกันของการเจิมและพระวิญญาณของพระเจ้าได้ในพันธสัญญาเดิม เมื่อมีการแต่งตั้งกษัตริย์ ผู้เผยพระวจนะหรือปุโรหิต ผู้แต่งตั้งจะเทน้ำมันบริสุทธิ์ลงบนศีรษะของผู้ถูกแต่งตั้ง พระวิญญาณของพระเจ้าจะเสด็จลงเหนือเขาเพื่อประทานฤทธิ์อำนาจในการปรนนิบัติรับใช้
แม้กระทั่งการปรนนิบัติมวลชนขององค์พระเยซูคริสต์ก็เช่นกัน พระองค์ตรัสว่า พระวิญญาณแห่งพระเป็นเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะว่าพระองค์ได้ทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ เพื่อนำข่าวดีมายังคนยากจน พระองค์ได้ทรงใช้ข้าพเจ้าให้ร้องประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย ให้ประกาศแก่คนตาบอดว่าจะได้เห็นอีก ให้ปล่อยผู้ถูกบีบบังคับเป็นอิสระ” (ลก. ๔:๑๘)
เราเห็นความเกี่ยวพันของการเจิมและพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ในพันธสัญญาใหม่
จากพระธรรมข้อหลัก ยอห์นกล่าวว่า ผู้เชื่อทุกคนได้รับการเจิมจากพระเจ้า พระเยซูตรัสว่า ผู้เชื่อจะได้รับพระวิญญาณจากพระเจ้า (ยน. ๑๔:๑๖-๑๗)
ยอห์นกล่าวว่า การเจิมดำรงอยู่กับผู้เชื่อ พระเยซูตรัสว่า พระวิญญาณจะอยู่กับผู้เชื่อ (ยน. ๑๔:๑๖-๑๗)
ยอห์นกล่าวว่า การเจิมสอนให้รู้ทุกสิ่ง พระเยซูตรัสว่า พระวิญญาณสอนให้รู้ทุกสิ่ง (ยน. ๑๔:๒๖)
ยอห์นเริ่มต้นกล่าวว่าการเจิมดำรงอยู่กับท่านและกล่าวลงท้ายว่าท่านจงตั้งมั่นอยู่กับพระองค์
คำว่า ดำรงอยู่กับและ ตั้งมั่นอยู่กับเป็นคำเดียวกันในภาษากรีก
อีกนัยหนึ่ง ยอห์นกล่าวว่า การเจิมอยู่กับท่าน ท่านจงอยู่กับพระองค์ยอห์นเรียกการเจิมว่า พระองค์
การเจิมไม่ใช่อิทธิพล ไม่ใช่พลัง ไม่ใช่อาการ การเจิมคือบุคคล การเจิมหมายถึงพระวิญญาณของพระเจ้า
เพราะคุณมีพระวิญญาณของพระเจ้าอยู่ภายในเมื่อคุณเชื่อในพระคริสต์ คุณจึงมีการเจิมของพระเจ้าอยู่ภายใน
แต่แทนที่เราจะอยู่กับการเจิม รับการสอนจากการเจิม เพราะเราไม่ทราบบทบาทของการเจิมในชีวิต เราจึงปล่อยให้ลมแห่งคำสอนล่อลวงซัดไปซัดมา ความเชื่อเราจึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทุกสัปดาห์ แล้วแต่แนวโน้มที่กำลังเป็นที่นิยมจะพาไป เราไม่สนใจที่จะใช้เวลาเงียบสงบลง อธิษฐานทูลขอให้การเจิมทรงสอน ประทานความสว่างและความเข้าใจ และเปิดพระคัมภีร์อ่านช้าๆ ด้วยตัวของเราเอง ยอห์นกล่าวว่าไม่จำเป็นต้องมีใครสอนท่านทั้งหลายไม่ได้หมายความว่าคริสเตียนไม่ต้องฟังคำเทศนาสั่งสอนอีกต่อไป เพราะอาจารย์หรือผู้สอนเป็นหนึ่งในของประทานที่พระเจ้าประทานแก่คริสตจักรของพระองค์ (อฟ. ๔:๑๑) แต่ยอห์นกำลังสอนให้ผู้เชื่อรู้จักรับการสอนจากการเจิมภายใน เมื่อคุณอ่านพระวจนะเป็นส่วนตัว หรือฟังคำเทศนา พระองค์จะทรงนำไปสู่ความจริงทั้งมวล” (ยน. ๑๖:๑๓) พระองค์จะทรงเอาสิ่งที่เป็นของพระคริสต์มาสำแดงแก่คุณ (ข้อ ๑๔) พระองค์จะทรงเตือนจากภายในให้คุณทราบเมื่อคุณได้ยินคำสอนที่ไม่ถูกต้อง
ดังนั้นอย่าแปลกใจหากคุณพบชาวนาจบประถมสามแต่กลับเข้าใจเรื่องฝ่ายวิญญาณลึกซึ้งกว่าดอกเตอร์ซึ่งจบด้านศาสนาโดยตรง
ตัดสินใจวันนี้ที่จะตั้งมั่นคงอยู่กับการเจิมโดยการรับการสอนจากพระองค์ พระวิญญาณจะทรงนำคุณไปสู่ความจริงทั้งมวล คุณจะแยกแยะออกว่าสิ่งใดจริงสิ่งใดเท็จ คุณจะตั้งมั่นคงและพ้นจากการถูกซัดไปซัดมาด้วยลมแห่งคำสอนล่อลวง คุณจะได้รับความรู้ ความสว่าง การสำแดงจากเบื้องบน และจะทรงนำคุณให้มีประสบการณ์กับชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่คุณ
คำกล่าวตามด้วยความเชื่อ: ฝ่ายข้าพเจ้า การเจิมซึ่งข้าพเจ้าได้รับจากพระองค์นั้นดำรงอยู่กับข้าพเจ้า และไม่จำเป็นต้องมีใครสอนข้าพเจ้า เพราะว่าการเจิมนั้นได้สอนข้าพเจ้าให้รู้ทุกสิ่ง และเป็นความจริง และไม่ใช่ความเท็จ การเจิมนั้นสอนข้าพเจ้าแล้วอย่างใด ข้าพเจ้าจะตั้งมั่นคงอยู่กับพระองค์อย่างนั้น ในพระนามของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

ไม่มีความคิดเห็น: